ปวดหัวข้างเดียว อาจไม่ใช่ “ไมเกรน”

ในชีวิตนี้ทุกคนต้องเคยปวดหัว ซึ่งอาการปวดมีได้หลายรูปแบบและตำแหน่งของศีรษะ ทั้งปวดจี๊ด ๆ ปวดตุ๊บ ๆ ปวดเหมือนโดนบีบขมับ ปวดร้าวออกกระบอกตา ปวดท้ายทอย ฯลฯ และที่เจอบ่อยมาก ก็คือ ปวดหัวข้างเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้างซ้าย ข้างขวา หรือปวดสลับกันทั้งสองข้าง และหมอเชื่อว่า ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง “โรคไมเกรน” ก่อนเป็นอันดับแรกใช่มั้ยครับ

“แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ จะเป็นเพราะสาเหตุอะไรอย่างอื่นที่นอกเหนือจากไมเกรนได้อีก

วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังครับ”

สาเหตุที่ทำให้ปวดหัวข้างเดียว

ก่อนจะวินิจฉัยไมเกรน หมอจะต้องแยกสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ปวดหัวข้างเดียวได้เหมือนกันออกไปก่อนเสมอ หากมีอาการปวดคอ บ่า ท้ายทอย ร้าวขึ้นศีรษะ ขยับคอแล้วรู้สึกตึง โดยที่ไม่พบความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น อ่อนแรง ชา หรือตามัว เป็นต้น อาการปวดหัวอาจจะเกิดความตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ท้ายทอยของเราได้ครับ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Trapezius ซึ่งหมอตรวจเจอบ่อยมากครับ

กล้ามเนื้อ Trapezius มัดนี้ เป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ที่อยู่ตรงคอบ่าและหลังส่วนบน รูปร่างคล้ายว่าว แต่จุดที่เป็นปัญหาบ่อย ๆ จะอยู่ช่วงบ่า (สังเกตรูปซ้ายมือ คือ ตำแหน่งที่กากบาท) พอกดหรือบีบกล้ามเนื้อตรงนี้ จะปวดมากกว่าจุดอื่น ๆ อาจคลำได้ก้อนเป็นปม เวลาเราไปนวด พี่หมอนวดจะบอกเราได้ชัดเจนเลยว่ากล้ามเนื้อตึงแข็งเป็นก้อน นอกจากนี้ถ้าคนที่เป็นเยอะก็จะปวดร้าวขึ้นท้ายทอย ไปที่ขมับหรือเบ้าตาของเราได้ เลียนแบบอาการ ปวดหัวข้างเดียว หรือ ไมเกรน นั่นเองครับ

ปวดหัวข้างเดียว จากอาการปวดจากกล้ามเนื้อพังผืด

นี่คือชื่อโรคของเราครับ หรือชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Myofascial pain syndrome” หรือ MPS ครับ

อาการแสดงของโรค MPS ของกล้ามเนื้อ Trapezius

1. ปวดคอหรือบ่า
2. ฝึดตึงต้นคอ โดยเฉพาะเวลาเอียงคอ
3. อาจปวดร้าวไปท้ายทอย ขมับและหลังเบ้าตา
4. มึนเวียนหัว หรือบ้านหมุนร่วมด้วย

“แต่อย่างไรก็ตาม หมอจะต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกทีนะครับ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยที่ถูกต้อง”

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า อาการเหมือนกับของตัวเองเลย ในบทความถัดไป หมอจะมาเล่าให้ฟังว่า เราจะรักษาด้วยวิธีการอะไร และสรุปปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อย เพื่อการแก้ปวดหัวข้างเดียวให้หายขาดครับ

ต้องการติดต่อสอบถามหมอฐิติเพิ่มเติม ได้ที่นี่

เช็ควิธีการรักษาและอัตราค่าบริการได้ ได้ที่นี่